หญ้านวลน้อย (หญ้ามะนิลา) หญ้าปูสนามที่ได้รับความนิยมมากที่สุด 70% ของประเทศไทย พบเห็นได้ทั่วไป หมู่บ้านจัดสรร หญ้าสนามฟุตบอล สวนสาธารณะ หญ้าสนามกอล์ฟ ลานกลางเต้น รีสอร์ท เป็นหญ้าที่ดูแลง่ายกว่าหญ้าชนิดอื่น ลักษณะ ใบหญ้าเล็ก นิ่ม อ่อนนุ่ม สีเขียวอ่อน ลำต้น เป็นข้อแข็งต่อกันเมื่อสัมผัสดินจะแตกหน่อและรากเป็นต้นใหม่ จุดเด่น มีรากฝอยยาวและแน่นเหมาะสำหรับปลูกคลุมหน้าดิน ทนต่อการเหยี่ยบย่ำและฟื้นตัวได้ดี ข้อดี เป็นหญ้าทนแล้ง การให้น้ำ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ ทนแดด ความต้องการแสงแดด 6-7 ชั่วโมงต่อวัน เหมาะสำหรับสนามหญ้ากลางแจ้งแดดจัดสามารถปลูกได้กับดินทุกชนิด ข้อเสีย ดอกหญ้ามีสีดำ เวลาออกดอกทำให้สนามหญ้าไม่สวย ควรตัดหญ้าเป็นประจำทุก 1-2 สัปดาห์ เมื่อปลูกในพื้นที่ร่มมากๆ หญ้าจะค่อยๆบางลง และจะหายไปในที่สุด
ข้อควรระวัง การตัดแต่งใบหญ้าในฤดูฝนอย่าให้น้ำท่วมขัง จะทำให้หญ้าตายได้
ขยายพันธุ์หญ้านวลน้อยด้วยการฉีดดำ
ฉีกหญ้าเป็นกอเล็กๆ เว้นระยะปลูกระหว่างกอ 10 ซ.ม. หญ้าจะแตกรากต้นใหม่เมื่อข้อสัมผัสดิน หญ้าสามารถขายได้จะมีอายุ 45-50 วัน หญ้าถึงจะเป็นแผ่นความสูงของหญ้า 3-5 ซ.ม.
การรดน้ำหญ้าหลังปลูกใหม่ รดน้ำสม่ำเสมอวันละ 4-5 ครั้งต่อวัน เป็นเวลา 1 สัปดาห์
ข้อพิจารณาในการเลือกซื้อหญ้า
- เลือกหญ้าที่ สด ใหม่ จากแหล่งปลูก หรือไร่หญ้าโดยตรง
 - แผ่นหญ้าต้องไม่เหลืองหรือแห้ง
 - หญ้าแผ่นหนาเสมอ ไม่บางหรือขาด
 - มีรากและดินติดไปกับหญ้า
 - ไม่มีหนอนและแมลง (หนอนกระทู้)
 - ไม่วัชพืชอื่นปน
 
คำถามที่พบบ่อย
หญ้านวลน้อย ถือเป็นหญ้าที่ราคาถูกที่สุด ในกลุ่มหญ้าปูสนาม หรือกลุ่มหญ้าสวยงาม แต่มีหญ้าชนิดอื่นที่ราคาแพงกว่าตั้งแต่ไม่กีบาท จนถึงแพงกว่าเป็นเท่าตัว หลายท่านอาจคิดว่าหญ้าที่แพงต้องเป็นหญ้าที่ดีที่สุด หญ้าราคาถูกต้องไม่ดีแน่ๆ แต่ความจริงเป็นสิ่งตรงกันข้าม หญ้านวลน้อย ที่ราคาถูกที่สุดเพราะว่ามีความนิยมปลูกกันมาก ทำให้ไร่หญ้าทั้งหลายเลือกที่จะปลูกขาย เป็นหญ้าที่พบเห็นได้ทั่วไปตามร้านหญ้าใกล้ๆ จะเป็นหญ้าหลักที่ขาย เพราะเป็นหญ้าท้องถิ่นของไทย เหมาะกับแสงแดดของบ้านเราที่มีแดดตลอดทั้งปี ส่วนหญ้าตัวไหนที่แพงมาก จะเป็นหญ้าที่ไม่ได้รับความนิยม เพราะหาซื้อยาก ไร่หญ้าก็ไม่นิยมปลูก
ช่วงเวลาที่โรคระบาด หรือศัตรูพืช ก็มีส่วนเกี่ยวข้องราคาหญ้า ช่วงเปลายปีไปจนถึงต้นปีของทุกปีจะมีการระบาดของหนอน (หนอนกระทู้ลายจุด)กัดกินต้นหญ้าและหน่อ และเพลี้ยกระโดดดูดน้ำเลี้ยง ทำให้หญ้าโตช้า ส่งผลให้ไร่หญ้าต่างๆผลิตหญ้าออกมาได้ช้ากว่าปกติ มีผลทำให้หญ้าขาดตลาดชั่วคราว
เนื่องจากสินค้าการเกษตรมีความเสี่ยงจากสภาพดินฟ้าอากาศที่มากเกินไป เช่นหน้าแล้งที่แล้งจนไม่มีน้ำรดหญ้าเลยทำให้ต้องหยุดการปลูก หรือ ช่างฝน ที่ฝนตกจนท่วม ทำให้หญ้าได้รับความเสียหาย ก็ส่งผลต่อหญ้า
ร้านขายหญ้า หรือร้านต้นไม้ เขาจะรับหญ้าไปขายต่ออีกทีฉะนั้นย่อมต้องบวกกำไรเพิ่ม และความเสี่ยงที่รับหญ้ามาวางขายแล้วขายไม่หมด หญ้าก็จะเสียหาย แถมยังต้องบวกค่ารถบรรทุกอีกด้วย
การเตรียมพื้นที่ปลูกหญ้านวลน้อย
- กำจัดวัชพืชออก
 - ปรับพื้นที่ให้เรียบ
 - เติมทรายถม 2-5 ซ.ม.
 - โรยดินถุงรองพื้น 1 ถุงต่อพื้นที่ 10 ตร.ม.
 
สาเหตุที่ราคาหญ้าไม่แน่นอน
หญ้านวลน้อยราคา มีขึ้น มีลง ไม่แน่นอน ก็ด้วยเหตุผลเหมือนกับสินค้าเกษตรทั่วไป เมื่อมีการผลิตสินค้ามากว่าความต้องการของผู้ซื้อ ก็ทำให้ราคาถูกลง
1.ฤดูร้อน
ช่วงหน้าร้อนหรือหน้าแล้ง คนไม่นิยมปลูก เพราะอากาศร้อน หาแหล่งน้ำยาก ปริมาณน้ำที่ใช้รดหญ้าก็น้อย มีความเสี่ยง โอกาสที่ รอดของหญ้าก็น้อยไปด้วย จึงรอไปปลูกช่วงหน้าฝนกัน ทำให้มีความต้องการ ซื้อหญ้าจำนวนมากพร้อมกัน ก็จะทำให้ราคาสูงขึ้น เพราะหญ้าเป็นสินค้าเกษตรต้องใช้เวลาเจริญเติบโต ทำให้การผลิตไม่ทัน หญ้าโตไม่ทัน
2.ฤดูฝน
การปลูกหญ้าหน้าฝน อากาศไม่ร้อน และฝนช้วยให้หญ้าเจริญเติบโตได้ดีอีกด้วย มีแหละน้ำ ปริมาณน้ำรดหญ้าก็มีเยอะ ทำให้ความต้องปลูกในเวลาสูงขึ้นก็ทำให้ราคาสูง
3.ฤดูหนาว
ช่วงฤดูหนาว หญ้าจะผลิตออกมาได้น้อย เนื่องจาก อากาศหนาวทำให้หญ้าไม่เจริญเติบ เติมปุ่ยไปก็ไม่โต ทำให้ญ้าเต็มช้ากว่าปกติ จากที่ใช้เวลา 45-50 วัน ก็ต้องใช้เวลาเพิ่มไปอีกอาจถึง 60 วันขึ้นไป ก่อให้เกิดสถาวะหญ้าขาดตลาต ทำให้ราคาสูงขึ้นในช่วงเวลานี้
สรุป
จริงๆหญ้าจะปลูกฤดูไหนก็ได้ ขอให้มีน้ำรดหญ้าคือสิ่งสำคัญ การปลูกหญ้าช่วงหน้าแล้ง ก็สามารถปลูกได้ถ้ามีแหล่งน้ำเพียงพอ แถมยังได้ลดต้นทุนซื้อหญ้าได้อีกด้วย ก่อนจะสั่งซื้อหญ้าควรศึกษาชนิดของ หญ้าปูสนาม วิธี ปลูกหญ้า และ วิธีการดูแลสนามหญ้า และเตรียมพื้นที่ให้พร้อม 100 % ก่อนจะสั่งหญ้าจะดีกว่า




				




				
				